วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

5 เหตุการณ์จงรู้ เกม แมนฯยูฯ เปลี่ยนเชือด เชลซี

 

5 กิจธุระจำเป็นจะต้องรู้ เกม แมนฯยูฯ แพลงเชือด เชลซี

ทำเสร็จจนได้สำหรับลูกทีมของโฆเซ มูรินโญ หลังจากพวกเขาถูกทีมเยือนบุกมานำไปก่อนในครึ่งแรก 1-0 การที่พวกเขากลับกันมาชนะเชลซีได้ 2-1 ทำให้พวกเขาสามารถแซงลิเวอร์พูลขึ้นไปอยู่ระดับ 2 ได้อีกครั้งด้วย

กระไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เพียงปมเดียวที่เกิดขึ้นในเกมบิ๊กแมตช์สุดมันวันอาทิตย์ และ 5 ข้อต่อไปนี้ก็คือ 5 เรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นเกมดังกล่าวครับผม

5. วิลเลียน ขโมยซีน



แม้กระนั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเป็นก้ำเอาชนะไปได้ 2-1 ในกลับที่ผ่านมา แต่ปิดประตูไม่ได้เลยว่าการโชว์ฟอร์มของวิลเลียนในเกมนี้เอามีชัยปีกคนอื่น ๆ ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอ็องโตนี มาร์กเซียล, อเล็กซิส ซานเชซ, เปโดร โรดริเกซ ใช่ไหมแม้แต่เอเด็น อาซาร์

ประตูขึ้นนำในเกมนี้เริ่มมาจากการตัดบอลหน้ากรอบเขตโทษ แต่ก่อนเป็นวิลเลียนเองนี่แหละที่ทำบอลขึ้นมาในแดนแมนฯ ยู เล่นกัน 2 คนกับเอเด็น อาซาร์จนลุ่ยกับดักล้ำหน้าด้วยกันกลายเป็นประตูในที่สุด

การเล่นอย่างชาญฉลาดและความคมในการทำประตูของวิลเลียนไม่ใช่ข้อความสำคัญบังเอิญ โดยแต่แฟนบอลบาร์ซาน่าจะรู้ดีที่สุด

4. ลูกากู ยิงทีม Top 6 ได้ซะที

 



ชายผู้มีค่าเหนื่อย 250,000 ปอนด์ผสานสัปดาห์ต้องเจอแรงกดดันมากในระยะหลัง สัมพันธ์มาจากสถิติอันย่ำแย่บางอย่างของเจ้าตัว

นั่นคือเขาไม่เคยยิงทีม Top 6 ได้เลย

เขาไม่ผิดตำหนิว่าไม่ใช่ของจริง ยิงได้อย่างไรก็ตามทีมที่อ่อนกว่า กับอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ประตูกับเชลซีในวันนี้ไม่ใช่เป็นแค่แค่การลบสถิติออกเท่านั้น ถ้าว่ายังเป็นการแสดงให้เห็นให้เห็นด้วยว่าเขามีสมาธิหน้าปากประตูมากขนาดไหน พร้อมทั้งคงไม่นานเกินรอที่เขาจะยิงทีม Top 6 ได้อีกครั้ง

3. ลินการ์ด ยังมีของดีซ่อนอยู่อีกเยอะ



หนุ่มน้อยผู้เป็นผลิตกรรมของอคาเดมีผีแดงผู้นี้เคยมีช่วงเวลาอันชั้นหนึ่งอยู่ระยะหนึ่ง หลังซัดไป 6 ประตูจาก 9 นัดที่ลงเล่น ก่อนจะเริ่มจางหายไปในที่สุด

ซึ่งอันตรายของลินการ์ดก็ดูจะย่ำแย่เข้าไปอีกเมื่ออเล็กซิส ซานเชซเดินทางมาถึงโอลด์แทร็ฟฟอร์ด เพราะแม้อเล็กซิสจะไม่ได้เล่นทับสถานภาพเขาโดยตรง แต่มันหมายความว่านักเตะที่มีฝีมือไล่เลี่ยกันพร้อมด้วยเล่นตำแหน่งใกล้เคียงกันต้องมีคู่แข่งมากขึ้น แรชฟอร์ดเอย มาร์กซิยาลเอย มาตาเอย นักเตะเหล่านี้แหละที่จะมาทับยศเขา

ไงก็ตาม วันนี้เป็นวันที่ลินการ์ดแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเขายังมีดีซ่อนอยู่อีก การสอดขึ้นมาโขกบอลโล่ง ๆ ทำให้เห็นพิสัยทัศน์ของการเป็นตัวทำประตูของเขา แถมการโหม่งก็ยังควบคุมทิศทางพร้อมด้วยแรงได้ดีอีกด้วย ต้องชมเขาล่ะ

2. แมนฯ ยูเริ่มหายใจได้ทั่วท้องบ้างแล้ว

 



ครั้งก่อนเกมนี้จะเริ่มขึ้น มีหลายฝ่ายมองว่าแมนฯ ยู มีสิทธิร่วงจากพื้นที่ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก

ก็จะไม่ให้มองได้อย่างไร แต่ก่อนนี้พวกเขาแพ้ทั้งสเปอร์สพร้อมกับนิวคาสเซิล กลายร่างพลัดพรากที่เป็นทีมลุ้นแชมป์อยู่ดี ๆ ตอนนี้เริ่มจะเป็นทีมลุ้นโควตาแชมเปี้ยนส์ลีกมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยกันหากพวกเขาแพ้เชลซีอีก พวกเขาจะอยู่อันดับ 3 มีแต้มเท่าอันดับ 4 และนำอันดับ 5 เพียง 1 คะแนนเท่านั้น

ชัยในนัดนี้ส่งผลให้พวกเขาทิ้งเชลซีออกไปเป็น 6 คะแนน พร้อมทั้งแม้ว่าพวกเขามีคิวแข้งกับลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้ว่าเชลซีเองก็ต้องเจอกับซิตี้และลิเวอร์พูลเช่นกัน เพิ่มสิงห์บลูยังต้องไปเจอสเปอร์สอีกด้วย ตอนนี้เราจึงกล้าพูดได้เลยว่างานของเชลซียังหนักกว่าเยอะ

1. สัญญาณของมิตรภาพ

 



อันโตนิโอ คอนเตกับโฆเซ มูรินโญเริ่มทะเลาะคารมกันมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วและยิ่งมาหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ ในฤดูกาลนี้ นั่นทำให้โอกาสที่ทั้งสองคนจะจับมือกันในสัปดาห์นี้ดูเป็นไปไม่ได้เลย

โดยเฉพาะเมื่อมูรินโญเดินไปจับมือกับนักเตะเชลซีทุกคนในอุโมงค์ก่อนเกมเริ่ม แต่ยังไม่ยอมจับมือกับคอนเต้ ในขณะที่คอนเต้เองก็พยายามจะเลี่ยงมูรินโญอยู่ตลอดเวลา

แต่เขาทั้งหลายก็จับมือกันจนได้จริง ๆ ถึงจะแป๊บเดียวก็เถอะ คงทำให้อัฟราม แกรนท์สบายใจขึ้นมาหน่อยละนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น